Olaf the Snowman - Disney's Frozen

วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559

องค์ประกอบในการถ่ายภาพ

องค์ประกอบพื้นฐานส าหรับการถ่ายภาพ

 ส าหรับการถ่ายภาพให้ได้ภาพที่ตรงตามความต้องการ มีคุณค่า มีความงามทางด้านศิลปะ
นอกจาก จะท าความเข้าใจในเรื่องของการใช้กล้องถ่ายภาพ และเครื่องมือที่มีคุณภาพแล้ว การจัด
องค์ประกอบภาพ ก็เป็นสิ่งที่ส าคัญ ที่จะท าให้ได้ภาพมีคุณค่าขึ้น ดังนั้นจึงควรที่จะท าความเข้าใจ
เกี่ยวกับหลักการจัดองค์ประกอบของภาพ โดยหลักเบื้องต้นในการจัดองค์ประกอบภาพมี 2
ประเภทได้แก่
 1. ผู้ถ่ายจัดวางสิ่งของที่จะถ่ายตามความพอใจ ส่วนใหญ่จะเป็นการถ่ายสิ่งที่อยู่นิ่งและสิ่ง
ที่ไร้ชีวิต เช่น ดอกไม้ เครื่องเรือน เครื่องเล่น เครื่องกีฬา และรวมทั้งการถ่ายภาพคนครึ่งตัว
 2. ผู้ถ่ายหามุมถ่าย หรือเปลี่ยนเลนส์ใกล้-ไกล ตลอดจนการใช้วิธีการอื่ น ๆ เพื่อให้ได้
ภาพสวยงามตามต้องการ เนื่องจากไม่สามารถจะจับวางสิ่งที่จะถ่ายให้อยู่ในต าแหน่งตามอ าเภอใจ
ได้ เช่น ทิวทัศน์ตามธรรมชาติ หรือเหตุการณ์เคลื่อนไหวต่าง ๆ
 การจัดองค์ประกอบในการถ่ายภาพได้ประยุกต์มาจากวิชาวาดเขียน คือ ถ่ายภาพให้คล้าย
กับภาพวาด โดยใช้วิธีเดียวกันกับจิตรกรวาดภาพที่ต้องพยายามจัดวางองค์ประกอบภาพให้สมบูรณ์
ที่สุด ให้แสดงเรื่องราว อารมณ์ และบรรยากาศอย่างเด่นชัด

หลักใหญ่ในการจัดองค์ประกอบภาพ
 1. ต าแหน่งจุดเด่นหรือจุดสนใจ (point of interest)
 หลักการประกอบภาพนั้น นิยมวางจะเด่นหรือจุดสนใจไว้ตรงจุดตัด 9 ช่อง ไม่ว่า
จะเป็นภาพแนวตั้ง แนวนอน หรือเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก็ตาม (ดังภาพประกอบ)





ภาพโครงร่างภาพที่เน้นจุดสนใจ



ภาพที่เน้นจุดสนใจต าแหน่งบนซ้าย
 จุดทุกจุดที่ตัดกันระหว่างเส้นนั้น ถือว่าเป็ นต าแหน่งส าหรับวางจุดเด่นได้ การที่ไม่
วางจุดเด่นไว้ตรงกลางภา พ เนื่องด้วยคนเราดูภาพมักจะมองดูตรงกลางก่อน ถ้าวางจุดเด่นอยู่ตรง
กลางแล้ว ส่วนอื่น ๆ ของภาพย่อมขาดความส าคัญไป จึงควรใช้เนื้อที่ของภาพให้เป็นประโยชน์ทุก
ตารางนิ้ว
2. ความสมดุลของภาพ (balance)
 ความสมดุลในการจัดองค์ประกอบภาพนั้นคือ การจัดวางสิ่งต่าง ๆ ในภาพให้มีความ
สมดุลกัน โดยมิให้ด้านใดด้านหนึ่งของภาพหนักกว่าอีกด้านหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านซ้าย-ขวา หรือ
ด้านบน-ล่าง หากวางส่วนส าคัญต่าง ๆ ให้เหมาะสม จะท าให้ความสมดุลในองค์ประกอบสวยงามดี
ขึ้น

ภาพแผนภาพความสมดุลของภาพ
 ที่มา : ประสพ มัจฉาชีพ. (2548).
 


ภาพตัวอย่างภาพมีความสมดุลแบบไม่เท่ากัน
 3. ความสมดุลของสี (tone balance)


 1 2 3
ภาพแผนภาพความสมดุลของสี
 ส่วนสัมพันธ์ต่าง ๆ ของสีในภาพก็เป็นสิ่งส าคัญที่จะต้องค านึงถึง จากภาพที่ 3 รูปที่ 1 - 2
จะเห็นได้ว่า การจัดสีเข้มไว้เบื้องล่างจะแลดูดีกว่าวางอยู่ข้างบน ส่วนภาพที่ 3 หากมีความจ าเป็นที่
จะต้องมีสีเข้มอยู่ส่วนบน ก็ควรแก้ไขด้วยการสอดแทรกสีอ่อนลงไปบ้าง ในท านองเดียวกัน หาก
ด้านบนมีสีอ่อนมากไป ก็อาจเสริมสีเข้มเข้าไปบ้างก็ได้ จะท าให้ความสมดุลของสีดีขึ้น
 4. การเน้นสี (emphasis on tone)
 การเน้นสีเป็นการเน้นจุดเด่นให้เห็นเด่นชัดจริง ๆ เนื่องจากจุดเด่นนั้นมีความส าคัญใน
เรื่องน้ าหนักของสี เช่น จุดเด่นมีน้ าหนักสีเข้ม ก็ควรให้วางอยู่ในที่ที่มีพื้นสีอ่อน ในทางกลับกัน
หากจุดเด่นมีสีอ่อน ก็ควรจัดให้อยู่ในพื้นที่ที่มีสีเข้มกว่า การถ่ายรูปคนที่แต่งชุดเขียวอยู่บนพื้นหญ้า
สีเขียว ย่อมจะท าให้ไม่ได้ผลดีในการเน้นสี เพราะสีทั้งสองมีน้ าหนักสีใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะถ่ายเป็น
ภาพสีหรือภาพขาวด าก็ตาม การเน้นสีย่อมจะไม่เด่นพอ





ภาพภาพเน้นสีตัดกัน
 การเน้นสีในภาพสี
 เป็นที่ทราบกันบ้างแล้วว่า สีรุ้ง ประกอบด้วย สีแดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า น้ าเงิน
ม่วง จ านวนสีรุ้งทั้ง 7 สีนี้ สามารถแบ่งออกได้ 2 กลุ่มด้วยกัน คือ
 - กลุ่มสีอุ่น ได้แก่ สีแดง สีส้ม สีเหลือง
 - กลุ่มสีเย็น ได้แก่ สีฟ้า สีน้ าเงิน สีม่วง
 ส่วนสีเขียวนั้น ถือกันว่าเป็นสีกลาง นับเข้ากับกลุ่มไหนก็ได้
 เมื่อเราเห็นไฟ เราก็จะรู้สึกว่าร้อน เมื่อเราเห็นดวงอาทิตย์จะรู้สึกอุ่น ดังนั้น เมื่อเราเห็นสี
แดง ส้ม เหลือง ความรู้สึกในด้านจิตใจจะเกิดความอบอุ่น ตื่นเต้น ทะเยอทะยาน ครั้นเมื่อเราเห็นฟ้าสี
คราม เห็นป่าสีเขียว เราจะรู้สึกเยือกเย็นสงบและเดียวดาย การสัมผัสด้วยตานี้เอง คืออิทธิพลของสีที่
ส่งผลกระทบถึงจิตประสาทคนเราได้ ในการถ่ายภาพจึงเป็นการสมควรที่เราจะต้อง เลือกใช้สีให้
ถูกต้อง ตามกาลเทศะตามเรื่องราว และตามอารมณ์ของภาพอย่างร ะมัดระวัง สมมติว่าเราจะ
ถ่ายภาพคนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีแดง การที่จะให้สีตัดกันอย่างได้ผล เราจะเลือกใช้สีฟ้าหรือสี น้ า
เงินเป็นฉากหลัง ในทางตรงกันข้าม หากถ่ายภาพผู้สวมเสื้อผ้าสีน้ าเงิน เราก็ควรเลือกใช้สีแดง สีส้ม
หรือสีเหลืองมารองรับในฉากหลัง เพื่อให้ผลในการตัดกันของสีดูเด่นดี นอกเหนือไปจากการใช้สี
อุ่น ตัดกับสีเย็นแล้ว เราอาจพลิกแพลงใช้สีที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันมารวมอยู่ในภาพด้วยกันก็ได้ ทั้งนี้
เพื่อการแสดงอารมณ์ตามเรื่องราวของภาพให้เด่นชัด เช่น เมื่อเราต้องการให้ภาพแสดงอารมณ์รุ่มร้อน
ตื่นเต้น ทะเยอทะยาน เราก็ใช้สีแดงตัดกับสีแดงได้ เพียงแต่ให้มีความเข้มและความอ่อนแตกต่างกัน

ภาพใช้สีดูกลมกลืนกัน
 5. การเน้นลักษณะของรูปทรง (emphasis of forms)
 ลักษณะรูปทรงต่าง ๆ ในภาพถ่ายมีได้หลายแบบ เช่น
 - รูปสามเหลี่ยม เป็นเครื่องหมายแห่งความมั่นคง หนักแน่น
 - รูปตัว S แสดงถึงความอ่อนช้อย อ่อนหวาน นุ่มนวล
 - รูปตัว L แสดงถึงการเชื่อมโยง ความผูกพัน เกี่ยวพันถึงกัน
 นอกจากนี้ ลักษณะของภาพที่วางเป็นเส้นท แยงมุม ย่อมแสดงถึงการเคลื่อนไหว ความ
รุนแรง และยังมีลักษณะรูปทรงอื่น ๆ อีกมากมาย


ภาพเน้นรูปทรงสามเหลี่ยม
 
 6. การแสดงซ้ าซากหรือล้อเลียน (repetition echo)
 องค์ประกอบในภาพถ่ายอาจจะมีการแสดงซ้ าซากหรือล้อเลียน เปรียบเช่นโคลงกลอนที่
ไพเราะจับใจ จะต้องมีเสียงสัมผัสที่ดี หรือดนตรีที่ไพเราะน่าฟัง ก็ต้องมีท่วงท านองและลูกคู่ที่คล้อง
จองพร้อมเพรียงกัน
 7. บรรยากาศและอารมณ์ (atmosphere and emotion)
 ภาพถ่ายก็คล้ายกับภาพเขียนที่มีการแสดงออกถึงบรรยากาศท าให้ผู้ชมเกิดอารมณ์
คล้อยตาม เช่น เกิดความหนาว เยือกเย็น เกิดความสงบหรือความรุ่มร้อน รุนแรง รวมทั้งอารมณ์
ของภาพที่แสดงผลไปในทางแจ่มใส ร่าเริง สดชื่น หรือเศร้าโศก อับเฉา เป็นต้น




ภาพนาเกลือแสดงบรรยากาศสงบ อบอุ่น
 8. ความลึกและทัศนมิติ (third dimention)
 ตามปกติแล้ว แผ่นภาพถ่ายจะมีเพียง 2 มิติ คือความกว้างและความยาวเท่านั้น ส่วน
ความลึกนั้นไม่มี การที่จะท าให้ภาพเกิดความลึกด้วยนั้น ท าได้หลายวิธี เช่น
 - เน้นสิ่งที่อยู่ใกล้ให้มีสีเข้ม แล้วค่อย ๆ ให้สีจางลงไปตามระยะที่ห่างออกไป
 - ประกอบโครงสร้างล้อมกรอบอยู่ในฉากหน้าของภาพ
 - เน้นความชัดเฉพาะจุดเด่นที่อยู่ใกล้ ปล่อยให้สิ่งที่อยู่ไกลถัดไปพร่ามัวตามล าดับ
 - สรรหาสิ่งที่เป็นทิวแถว เน้นตอนหน้าให้มีลักษณะใหญ่แล้วค่อย ๆ ลดขนาด
ลงตามระยะ
 - ใช้เส้นน าสายตาไปสู่จุดสนใจ จากใกล้ไปถึงไกล
 - ให้แสงส่องมาจากด้านข้างหรือด้านหลัง พร้อมกับใช้ฉากหลังที่มีสีเข้มท าให้
เกิดความลึกแก่ภาพเช่นเดียวกัน


 









ภาพแสดงความลึก
 9. เนื้อที่ของภาพ (picture area)
 เนื้อที่ในแผ่นภาพทุกตารางนิ้ว มีไว้ส าหรับจัดวางองค์ประกอบ การถ่ายภาพที่ให้จุดเด่น
มีขนาดใหญ่เกินไป จะท าให้ดูรู้สึกคับภาพ จุดเด่นเล็กเกินไปก็รู้สึกว่างเปล่าและไร้ความหมาย
ความสัมพันธ์ระหว่างช่องว่างกับจุดเด่นจึงมีความส าคัญเกี่ยวพันกันอยู่ จุดเด่นที่มีกิริยาเคลื่อนไป
ข้างใด หรือคนหันหน้าไปทางไหน ข้างนั้นควรให้มีช่องว่างมากกว่า มิฉะนั้นจะท าให้รู้สึกว่าไม่มีที่
ว่างจะก้าวหรือเคลื่อนไป ถ้าวางจุดเด่นอยู่ชิดขอบภาพเกินไป ก็จะท าให้รู้สึกอึดอัด ดูแล้วไม่สบายใจ
ดังภาพด้านล่างนี้ จุดเด่นอยู่ที่ป้ายไฟ AMATA โดยมีแสงไฟวิ่งของรถยนต์ด้านล่าง เว้นเนื้อที่ตรง
กลางภาพ ให้แสงไฟจาก ถนนอยู่ทางด้านซ้าย
เป็นการเว้นเนื้อที่ และ ก าหนดจุดเด่นให้
ภาพดูน่าสนใจ



ภาพแสดงเนื้อที่ว่างและจุดเด่นของภาพ

 
 10. เอกภาพ (unity)
 การจัดองค์ประกอบต่าง ๆ ในภาพให้มีความสัมพันธ์กันอย่างมีเหตุผล ตามเรื่องราวที่
ภาพแสดงออกมาและเชื่อมโยงให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ได้ชื่อว่ามีเอกภาพในภาพ
 อย่างไรก็ตาม ไม่ควรจัดส่วนต่าง ๆ ในภาพให้เรียบร้อยเกินไปจนดูแล้วรู้ได้ว่าเป็นการ
จงใจ ในเวลาเดียวกันก็ต้องขจัดสิ่งต่าง ๆ ที่จะท าให้ภาพมีความยุ่งเหยิงออกไปให้หมด การแสดงเรื่องราว
ในภาพเดียวกันหลาย ๆ เรื่องก็ท าลายเอกภาพเช่นกัน ดังภาพด้านล่าง ภาพควายก าลังแช่น้ า เป็นการ
แสดงอุปนิสัยของควายเป็นเรื่องราวเดียว




ภาพแสดงความเป็นเอกภาพ
 หลักการจัดองค์ประกอบภาพทั้งหมดที่กล่าวมานี้ มิได้หมายความว่าจะให้ยึดปฏิบัติ
อย่างเคร่งครัด หรือถือเป็นหลักการตายตัวเสมอไป แต่ส าหรับผู้ที่เริ่มถ่ายภาพใหม่ ๆ ควรที่จะน าไป
ปฏิบัติให้เข้าหลักเกณฑ์ก่อน ต่อเมื่อได้ศึกษาและฝึกฝนจนเกิดความช านาญแล้ว การที่จะพลิกแพลง
หรือสร้างสรรค์ให้ได้ภาพที่ดีกว่า แปลกตากว่า ก็สามารถท าได้ง่ายขึ้น
อ้างอิงhttp://www.student.chula.ac.th/~55436246/doc/basicphotography.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น